เมืองSafranbolu ถือเป็นเมืองUnesco World Heritage Site นั่งรถบัสจากAnkaraมาที่นี่ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง พอมาถึงสถานีรถบัสที่Safranbolu ทางบริษัทรถทัวร์จะมีรถตู้มารับไปส่งในตัวเมืองอีกที ก่อนมาได้จองที่พักไว้ก่อนที่ Efe Pansion เพราะจะอยู่ที่นี่แค่หนึ่งคืนเลยไม่อยากเสียเวลาเดินหาที่พัก และตอนจองก็เห็นมีคนมาให้ความเห็นที่ดีเยอะทีเดียวบน Agoda ตอนที่ลงจากรถตู้ก็ถามคนขับว่าถ้าจะไปที่พักนี้ไปยังไง คนขับเลยขับไปส่งที่ออฟฟิศขายตั๋วรถบัสและบอกว่าเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะโทรไปที่ Efe Pansionให้ รอซักแป๊ปก็มีคนมารับ ดีจริงๆเลยคะ ตอนที่รถขับมาถึงก็เห็นป้าย Unesco World Heritage
บ้านเรือนที่นี่เป็นแบบครึ่งอิฐ ครึ่งไม้ บ้านเก่าๆทั้งนั้น บางหลังผุพังไปตามกาลเวลา บางหลังก็ไม่มีคนอยู่
Turkish Bathที่ Safranbolu แค่ 35TL.
ที่Efeก็เป็นบ้านเก่าและเอามาทำเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยว เนื่องจากบ้านสร้างด้วยไม้และเป็นบ้านเก่าเพราะฉะนั้นเวลาคนเดินไปมาก็จะเสียงดัง ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาคนเดียว, แบบคู่หรือแบบมาเป็นกลุ่มแบบ Backpack หรือไม่ก็วัยรุ่น,วัยทำงานที่ยังมีแรงเที่ยวและไม่ต้องพิถีพิถันเรื่องที่นอนมาก ที่นี่มีคนเอเชียพักค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะคนญี่ปุ่นเพราะมีคนนำไปลงในguide bookของที่ญี่ปุ่น เจ้าของบอกว่าคนไทยก็มีมาพักเหมือนกันนะคะ
Efe Pansion มีสามชั้น, 8 ห้องนอน, 24 เตียงนอน ห้องที่จองมาเป็น 2 เตียงและเพิ่งรู้ว่าเป็นห้องน้ำรวมค่าาาา
เจ้าของคงเห็นหน้าเราตอนเค้าพูดว่าเป็นห้องน้ำรวม เค้าเลยโชว์อีกห้องติดๆกันเป็น 1เตียงใหญ่และ 1เตียงเล็ก มีห้องน้ำในตัวและวิวสวยถูกใจ เลยยอมเสียเพิ่มอีก 6€
ชั้นบนสุดของบ้านมีส่วนที่เป็นterrace สามารถขึ้นมานั่งเล่น, ชมวิวและก็เป็นที่สำหรับทานอาหารทั้งเช้าและเย็น ถ้าจะทานตอนเย็นต้องแจ้งล่วงหน้าเพราะเจ้าของบ้านจะได้ทำเตรียมไว้ เค้าคิดเพิ่มประมาณ 10TL ส่วนอาหารเช้าก็แล้วแต่ว่าตอนเราจอง ราคาห้องพักรวมอาหารเช้ารึเปล่า
ส่วนใครที่ชอบที่พักดีหน่อย ทางเจ้าของเค้ามีที่พักอีกที่ชื่อ Asya เป็นบ้านเก่าประมาณ 260ปี เนื้อที่บ้านใหญ่มาก ตัวบ้านก็ใหญ่มาก มีสวนนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านและมีแม่น้ำไหลอยู่ด้านข้างตัวบ้านซึ่งสุดท้ายจะไหลไปลง Black Sea. ถ้าคนที่ชอบธรรมชาติ ชอบฟังเสียงแม่น้ำ ชอบความสงบก็จะชอบที่นี่ ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่พิถีพิถันเรื่องที่พักขึ้นมาในอีกระดับนึง พอเห็นที่นี่ก็เลยเปลี่ยนแผนจะมาพักที่นี่แทน Efe Mansionหลังจากกลับจาก Amasra
หลังจากหนึ่งคืนที่Amasra เราสองคนก็กลับมานอนที่ Safranboluต่อ คราวนี้มาพักที่ Asya ภายในตัวบ้าน ชั้นแรกจะมีโต๊ะให้นั่งแต่ตอนที่ไปอากาศกำลังดี แขกส่วนมากออกมานั่งพักผ่อนที่สวนหน้าบ้าน
อาหารเช้าแบบTurkish ที่Asya Konak. มีขนมปัง, ไข่ต้ม, ไส้กรอก,ชีส 2 ชนิด, โอลีฟอีก 2 ประเภท, แตงกวา, มะเขือเทศและมีแยมกุหลาบ, แยมเชอรี่และน้ำผึ้งไว้ทานกับขนมปัง ทานกับชาร้อน อร่อยแถมดีต่อสุขภาพด้วยนะคะ
ที่ Asya Konak บรรยากาศดีมาก เงียบสงบ มีแต่เสียงนกร้อง, ไก่ขันและเสียงจากแม่น้ำ อากาศเย็นสบาย จะได้ยินสวดมนต์จากมัสยิด บรรยากาศดีๆอย่างนี้เลยขอพักผ่อนชื่นชมความเงียบสงบก่อนกลับไปเมือง ใหญ่Istanbul ตัดสินใจเลื่อนตั๋วรถกลับIstanbul และอยู่ต่ออีกหนึ่งคืน 🙂 มาชมจากภาพกันดีกว่านะคะ
ตกเย็นก็จะมีเด็กโตหน่อยออกมาเล่นฟุตบอล ถ้าจะถ่ายรูปคนที่นี่ต้องถามเค้าก่อนนะคะเพราะเค้าไม่ชอบให้ถ่าย ส่วนมากจะปฏิเสธคะ
น่าไปพักผ่อนเหมือนกันน๊ะ
It is very quiet and beautiful la P’Be.
น่าไปเที่ยวมากครับ…
การเดินทางเป็นอย่างไรครับ…เช่ารถขับเอง หรือจ้างแท็กซี่ หรือสามารถเดินเที่ยวรอบเมืองได้ครับ
ขอบคุณสำหรับ comment นะคะคุณนพ เที่ยวในเมือง Safranbolu ส่วนที่เป็น World Heritage City ไม่ต้องเช่ารถหรือจ้างแท็กซี่เลยคะ เดินอย่างเดียว ยกเว้นถ้าจะไปส่วนที่เป็น downtownใหม่ของ Safranbolu ให้นั่งรถเมล์คะ จะมีรถเมล์วิ่งไป-กลับระหว่างส่วนของเมืองเก่ากับdowntownใหม่ตลอด นั่งแค่ 5-6 นาทีก็ถึง รถเมล์ค่อนข้างเก่านะคะ จะเดินก็ได้นะคะถ้าเป็นคนชอบเดินแต่มันเดินขึ้นเขานะคะ ค่อนข้างชันมาก เหตุผลเดียวที่เข้าไปที่ downtownใหม่คืออาหารคะ มีร้านอาหารนึงทำอาหารได้อร่อยมากจริงๆ 🙂
Pingback: My nine international journeys in 2013 | Tip's Food and Travel