Experiences from Vietnam trip

ห่างหายจากการเขียนไปนาน วันนี้ได้ฤกษ์คันไม้คันมือ ขอแชร์ประสบการณ์เดินทางไปเวียดนามหน่อย คราวนี้มีโอกาสไปเมืองเว้ เคยได้ยินแต่ชื่อแต่ไม่เคยหาข้อมูลว่าเมืองนี้มีอะไรที่น่าเที่ยวหรือ อาหารเมนูไหนที่ไม่ควรพลาด แต่เมื่อมีโอกาสมาแล้ว ก็ต้องลองลุยกันหน่อย คราวนี้มีเรื่องฮาๆตลอดทางไปเว้

ฮาเรื่องแรก -ได้ฤกษ์ออกเดินทางไปกับสายการบินใครๆก็บินได้  flight ออก 7 โมง รีบออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 เพราะรู้ว่าคนต้องเยอะมหาศาล พอถึงดอนเมืองก็จริงดังคาด คนล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสน ทั้งไทยและเทศ นี่ขนาดบินกลางสัปดาห์ ไฟลท์เช้าขนาดเน้ คนยังเยอะขนาดแถวยาวเป็นแม่งูเอ๋ย โชคดีบวกกับความไว เห็น counter ตรงข้ามเปิดปุ๊ป รีบก้าวขาออกจากแถวอันยาวเหยียดไปแถวใหม่ แล้วหันไปบอกสามีว่า ให้รอในแถวเก่าก่อนเผื่อผิดพลาดยังไงจะได้ไม่ต้องเข้าแถวใหม่ ใช้เวลารอ check in แถวใหม่นี้ไปแค่ 10 นาทีเท่านั้น

ตอนรอ boarding เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ผู้โดยสารที่จองที่นั่งราคาพิเศษขึ้นก่อน ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่า premium รึเปล่านะแต่เรายืนรอข้างหน้าไม่มีใครมาซักคน จนพนักงานบอกเราว่า มาเลยคะพี่ เราถามไปว่าไม่ต้องรอก่อนเหรอ น้องพนักงานหน้าตาสะสวยบอกไม่ต้องหรอกพี่ รอขนาดนี้ไม่มีมาซักคน คงไม่รู้จักว่าอะไรคือ premium seat โอ้วว จิกได้เจ็บคะ

นั่งเครื่องจากกรุงเทพไปลงที่ ฮานอย ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง สี่สิบนาทีเท่านั้น ไปถึงตั้งแต่ยังไม่เก้าโมงเช้า ไฟลท์จากฮานอยไปเว้ ปาเข้าไปบ่ายโมงครึ่ง โชคดีที่สนามบินมี WiFi ให้ใช้ฟรี แถมต้องรอคุณสามีทำ visa upon arrival คนต่างชาติเสียไป $45 แต่คนไทยฟรีค่าาาา ชอบเดินทางในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงก็เพราะเหตุผลนี้แหละ ไม่ต้องเสียเวลาและเงินค่าวีซ่า ฟินคะ 🙂

IMG_4609
พอผ่าน immigration ก็ตรงดิ่งผ่าน security เลย เพราะไม่มีสัมภาระที่ต้องรอเอา แค่แบกเป้กับกล้องเป็นพอ ประหยัดเวลาและค่า load กระเป๋าเดินทางด้วย

IMG_4606

ออกมาแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นสอง ฮาตรงที่ตอนยืนบนบันไดเลื่อน สามียืนอยู่หลังเรา เราสองคนยืนชิดซ้าย เผื่อมีใครจะเดินขึ้นจะได้ไม่ขวางทางคนอื่น อยู่ดีๆมีคน local ของประเทศที่เราไป เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้วมาหยุดยืนบนบันไดข้างเดียวกับสามี ที่ฮาสุดๆคือสองคนค่า ทางมีตั้งเยอะ ดันมายืนข้างสามีดิชั้นถึงสองคนค่า กลายเป็นผู้ชายสามคนยืนขั้นเดียวกันเสมือนเป็นเพื่อนซี้กับสามีดิชั้นมานาน สามีบอกถ่ายรูปเร็ว แต่ด้วยความหน้าบาง ไม่กล้าหันไปถ่าย เลยได้ภาพเบลอๆออกมาตอนที่หนึ่งในสองคนกำลังก้าวออกจากบันไดเลื่อน

เรานั่งรออยู่ชั่วโมงกว่าๆ เล่นเนตไป โพสไป ดูคนเดินไปเดินมา คุณสามีเลยเดินหาว่า domestic check in ของสายการบินเวียดนามต้องไปตรงไหน ปรากฎว่าต้องเดินไปส่วนที่เป็นตึกใหม่เพื่อ check in ตรงนั้นดูสะอาด สัญญาณ WiFi แรงกว่าตรงที่เรานั่งรอคราวแรก แถมมีปลั๊กให้ชาร์ตไฟด้วย แต่เค้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยเดินตรวจดูไม่ให้คนมานอนหลับที่เก้าอี้ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะที่นั่งไม่ได้มีเยอะมาก บางคนนอนยาวกินที่เก้าอี้ไปตั้ง 3-4 ตัว

IMG_4610

IMG_4611

ฮาเรื่องที่สาม ( แต่ผู้เขียนฮาไม่ออก) – ตอนขึ้นเครื่องก็ได้ window seat กับ ที่นั่งตรงกลาง ข้างๆเราเป็นผู้หญิงเวียดนาม วัยกลางคน หน้าตาสะสวย ถือกระเป๋า Prada เครื่องขึ้นไปไม่ถึงอึดใจ นางถอดรองเท้าส้นสูงของนาง แล้วนั่งไขว่ห้างทำให้เท้าขวาของนางหันมาทางผู้เขียน แล้วนางก็ใช้เท้าข้างขวาชอนไชเข้าไปในซอกหลืบของพนักเก้าอี้หน้านาง คือเห็นแล้วอยากจะอ้วกไม่อยากจับหรือแตะเก้าอี้หน้าเราเลยอ่ะ >< แถมนางได้คืบจะเอาศอก ชอนไชเสร็จแล้วก็มาข้ามเขตแดนดิชั้น นึกในใจ คนเอเซียเหมือนกัน ขาก็ไม่ได้ยาวอะไรนักหนานะ ที่ว่างใต้เก้าอี้หน้านางแทนที่จะเอาไว้วางเท้าตัวเอง นางเอาถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ข้างในมีของเยอะวางไว้แทน คือที่เก็บสัมภาระบนศีรษะก็มีที่นะ แต่นางคงขี้เกียจเอื้อม เลยแหมะไว้ใต้เก้าอี้หน้านาง พอที่ฝั่งตัวเองน้อยยืดขาไม่ได้ ก็มาระรานคนอื่น ดีนะที่นั่งเครื่องไปเว้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ไม่งั้นคงต้องบอกนางให้ช่วยเอาตีนเปล่าออกไปไกลๆขาดิชั้นด้วย!

เรื่อง ฮาอันดับสุดท้าย พอเครื่องลงสนามบินที่เว้ ทุกคนตั้งนั่งรสบัสไปที่ตัวอาคาร ไอ้เราก็นึกว่าไกล ที่ไหนได้ นั่งแค่ 30 วินาที แบบว่าใกล้เว่อร์จนคนต่างชาติที่อยู่ในรถบัสทุกคนหัวเราะและมองหน้ากันแบบ งงๆว่า ใกล้ขนาดนี้ ทำไมไม่ให้ผู้โดยสารเดินเข้าตึกเองเนี่ย บล็อกหน้าจะพาไปตะลุยถิ่นเว้ หาอาหารเวียดนามทานกัน 🙂


3 thoughts on “Experiences from Vietnam trip

  1. Yooy

    อยากเห็นบันไดเลื่อนฮานอย มันกว้างขนาดยืน 3 คนได้เลยรึนี่

    1. Tip Post author

      My point is it’s not that big na si ><

  2. Kevin

    TESTS! This looks great. Can you answer a question for me?

RSS
Follow by Email
Instagram