ผ่านมา 7 วัน นับจากวันที่โรงแรมปิด ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นทางเฟซบุคเพราะพี่ๆหลายคนที่เราอาจจะไม่ได้เจอกันเลย แต่อย่างน้อยก็มาเจอกันได้บน social network ความเศร้ายังคงมีอยู่แต่ทุกคนต้องเดินหน้าเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและครอบครัว
มานั่งนึกถึงตอนทำงานที่โรงแรม ยืนเมื่อยก็เมื่อย ตอนพักทานข้าวก็นั่งได้ไม่ถึงชั่วโมงเพราะต้องนึกถึงเพื่อนที่รอทานข้าวอยู่ บางกะต้องทำงานเอกสารไปพร้อมกับต้อนรับลูกค้าที่หน้า front เจอลูกค้าเคี่ยวๆก็เยอะ เงินเดือนรวม service charge ก็น้อยกว่าโรงแรมอื่น แต่ทำไมเรามีความสุขตลอด 7 ปีที่ทำงานที่นั่นจัง คำตอบในใจคือ เรามีเพื่อนร่วมงานดี มีหัวหน้าที่คอยให้คำแนะนำและชี้แนะเวลาเราเจอปัญหาที่แก้ไม่ตก มีรอยยิ้มให้กัน สิ่งต่างๆเหล่านี้มันทำให้เราอยู่กับงานนี้ได้นานถึง 7 ปี ถ้าเทียบอายุงานเรากับเพื่อนๆพี่ๆคนอื่น อายุงานเราอาจเป็นเพียงครึ่งเดียว แต่มันก็เป็นครึ่งที่เราได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะมากมาย
จำได้ว่าตอนทำงานตรง front desk เราต้องเรียนรู้รายละเอียดของโรงแรม, ประเภทห้อง, การทำ group check in, การ block ห้อง, การคิดค่าห้อง สมัยนั้นพี่สุโชคยังเป็น tour-co ครั้งแรกที่เห็นพี่เค้า นึกในใจ หน้าตาดุอะ ไม่กล้าคุยด้วย ดูแกโหด แต่มีอยู่วันนึงเราอยู่ตรง information และมีแขกมาขอ late c/o แต่เราจำไม่ได้แล้วว่าขอถึงกี่โมง รู้แต่ว่า late กว่าที่ให้ได้ พี่โชคยืนดูความเรียบร้อยแถวนั้นพอดี เราเลยเดินไปถามด้วยความกลัวว่าให้ได้มั๊ยพี่ พี่โชคบอกไม่ได้ ซวยเลยตรู แบบว่าเป็นเด็กใหม่ เพิ่งเริ่มทำงาน ประสบการณ์ยังไม่มี ไม่กล้าบอกแขกว่าไม่ได้ เดินไปหาแขกแต่ก็หันมามองหน้าพี่โชคด้วยเผื่อพี่เค้าเปลี่ยนใจ พี่โชคก็ยืนอยู่ห่างๆและก็ย้ำว่าไม่ได้ เราหันไปมองหน้าแขกและก็ขอโทษแบบรู้สึกผิดมากที่ให้ late c/o ไม่ได้ ตอนนี้หันกลับมามองตัวเองแล้วก็ขำกับความกลัว พี่โชคคงนึกในใจว่าไอ้น้องใหม่คนนี้แค่ late c/o มันยังไม่กล้าบอกแขก มันจะรอดมั๊ยเนี่ย 🙂
สมัยเป็น cashier จำได้ว่าตอนนั้นทำงานกับป๊อป ธนชัย นั่งนับเงินก่อนปิดรอบกันอยู่ เฮ้ย เงินหายไปไหน จำไม่ได้ว่า 500 หรือ 1,000 บาท แบบว่าวันนั้นงานราบรื่นมาก จะกลับบ้านตรงเวลาซะหน่อย มานั่งนับเงินทั้งตู้เซฟใหม่ อยากจะร้องไห้มาก หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ สุดท้าย กำลังจะ give up ลุกจากโต๊ะที่นั่งและมองหาตามพื้นและทุกซอกที่เราเดินผ่านและนั่งในห้อง office ของ cashier สายตาไปเจอแบงค์ที่หาอยู่เป็นชั่วโมงหล่นไปอยู่บนสายไฟอันระเกะระกะบนพื้นห้องระหว่างโต๊ะที่เรานั่งนับเงินกันอยู่ ดีใจตัวลอยแทบจะกรี๊ดออกมา ขอบอกคนไม่เคยเป็น cashier จะไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ ><
ขอขอบคุณพี่ๆรุ่นเก๋า cashier ทุกคน พี่สมคิดที่คอยสอนงานน้องคนนี้อย่างใจเย็น, พี่ติ๋วที่คอยสอนการโพส Qantas allowance, พี่สุชาติ แห่ง cashier รอบบ่าย ใจเย็นที่สุด ใจดี ไม่เคยบ่นหรือว่าใคร พูดน้อยแต่ต่อยหนักป่าวไม่รู้นะ แกมีคำพูดติดปากอยู่คำนึงที่น้องๆชอบกันมาก “ไอ้เหี้ยม” 555, พี่ปูที่คอยสอนวิธีตัด coupon ของ Garuda airline, พี่สายชลที่คอยอยู่เคียงข้างกันยามดึก ถ้าอยากเก่งรอบดึกต้องประกบและเรียนรู้จากเจ้าแม่คนนี้ พี่เค้าเก่งจริงๆ
พอเริ่มสนิทกับเพื่อนที่ front สนิทกับพี่ๆ เลิกงานรอบจากรอบเช้าก็จะต้องไปเดิน Emporium ไปหาของกินกันตลอด แหล่งที่เราสิงสถิตกันคือ Fuji ที่ Emporium ไม่ก็หาไอศครีมทานกัน บางทีเลิกตรงเวลามากก็ไปกินหมูกะทะ จำได้ว่าตอนนั้นไปทานแถวอ่อนนุชและหมูกะทะที่นั่นมีคนมาเล่นดนตรีด้วย วันนั้นนักดนตรีคงเหนื่อยหาอาสาสมัครขึ้นมาร้องเพลงบนเวที แน่นอนเพื่อนสาวเสียงดีอย่าง” ป๊อป”จะชักช้าอยู่ใยประกอบกับเพื่อนๆยุ ขอชมนะว่าเธอเสียงดีกว่านักดนตรีที่ทางร้านจ้างมาเล่นอีก แต่ถ้าใครอยู่ดึกเลิกงานเช้าก็จะไปหาโจ๊กทานกันแถว Emporium อีกเช่นกัน
หลายปีผ่านไปวิชาเริ่มแก่กล้า เป็นทั้ง cashier, receptionและรู้ระบบที่ information พี่ๆหลายคนเติบโตในตำแหน่งที่สูงขึ้น ทั้งไปเติบโตที่อื่นก็เยอะ หรือขยับขยายไปเติบโตที่แผนกอื่นก็มี พี่บี๋ให้โอกาสให้มาเป็น supervisor รู้สึกกลัวนะเพราะไม่เคยคิดจะเป็นหัวหน้าใคร แต่เรามั่นใจว่าพี่บี๋ พี่โชคจะคอยช่วยเราอยู่เสมอ แต่โอกาสช่างประจวบเหมาะกับการเปลี่ยนระบบ computer จาก Fidelio เป็น Comanche บอกตรงๆเลยว่า ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ไม่อยากมาทำงาน ระบบมันรวนหมด ห้องพันกว่าห้องแต่เราไม่สามารถบอกได้ว่าห้องไหนเราส่งแขกไปอยู่ได้บ้าง พี่โชคให้ฉายาระบบใหม่ว่า Com man… เด็กที่ front คงรู้นะว่าคำสุดท้ายคืออะไร อิอิ ตอนนั้นบอกเลยว่าสนิทกับ clerk แผนกแม่บ้านไปเลยเพราะต้องพึ่งพาอาศัยข้อมูลจากเค้าตลอด จำได้ว่าแขกมายืนรอเข้าคิว check in ยาวไปถึงหน้าลิฟท์ตึก North ทุกวัน รู้ตัวด้วยว่างานหลุดเยอะมากแบบทำงานไม่ทันจริงๆ วันๆนึงทุกคนทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมง ต้องนอนโรงแรมกับพี่แหยม พี่ที่น่ารักอีกคนที่ได้ร่วมงานกันมาเพราะงานของรอบไม่เสร็จ นั่งทำกันจนดึกดื่น พอผ่านช่วง Comanche มาได้ก็มีอีก challenge คือการเป็น Duty Manager ประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายแบบคิดไม่ถึงมีเยอะมาก
ตอนหน้าตอนสุดท้ายจะมาต่อเรื่องฮาๆ แปลกๆที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วถ้าไม่ใช่คนโรงแรม เพื่อนๆพี่ๆชาวโรงแรมคนไหนมีประสบการณ์ที่ฮาๆมันส์ๆ ก็มาร่วมแชร์กันได้นะคะ 🙂 โปรดติดตามชมตอนต่อไป…
“ภูมิใจ” ที่ได้อยู่และทันกันกับผู้เขียน ในรุ่นนี้นะ
You taught me how to do the night report, remember? Thank you naka P’Chua _/\_ 🙂