My first Europe trip on Day 1

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวยุโรป น่าเสียดายที่เวลามีไม่มากเลยได้ไปแค่ ออสเตรีย (Vienna, Salzburg, Linz), เยอรมัน(Munich, Augsburg), ฮังการี (Budapest, Gyor) และสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย(Prague) รู้สึกว่าเวลาแค่เดือนครึ่งคงเที่ยวได้ไม่หนำใจเพราะแต่ประเทศแต่ละเมืองมีอะไรให้เราเที่ยวชมมากมาย

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันดีกว่าว่าอะไรคือ Eurail Pass  Eurail Pass คือตั๋วรถไฟที่สามารถใช้ได้ใน 24ประเทศในEurope  สามารถซื้อได้ทางInternet  www.eurail.com หรือไม่ก็ตามagencyที่ขายตั๋วเครื่องบิน ราคาขึ้นอยู่กับว่าเราซื้อตั๋วประเภทไหนและเป็นประเภทกี่วัน ส่วนมากการเดินทางระหว่างประเทศที่เป็นประเทศในกลุ่มSchengenจะใช้ Eurail passเพราะเร็วและสะดวกกว่า สามารถแวะได้หลายเมืองตามเส้นทางที่รถไฟผ่าน สภาพรถไฟก็ดี  เช่น ถ้านั่งจากเวียนนาไปบูดาเพซ ก็จะเป็น Railjet โดยใช้เวลาแค่ 2ชั่วโมง 50นาที เท่านั้น แถมถ้าเป็นตั๋วรถไฟชั้นหนึ่ง จะมีพนักงานมารับออเดอร์และก็เสิร์ฟอาหารให้ถึงที่นั่ง มีwifiให้ใช้ฟรี มีปลั๊กให้เสียบชาร์ตแบตมือถือหรือคอมพิวเตอร์ด้วย

Eurail-OBB

Eurail-OBB

 

เริ่มตั้งแต่วันแรก ออกเดินทางจากกรุงเทพโดยสายการบิน Fin Air ขอโม้หน่อยว่าได้นั่งbusiness classเพราะคุณสามีใช้mileageแลกให้และด้วยความโชคดีที่ Economy classเต็ม เลยต้องบิน Business อิอิ แต่ในความโชคดีก็มีอุปสรรคมาให้ใจหายเล่นเล็กน้อย ดีนะที่ไปถึงAirportล่วงหน้า 3ชั่วโมงเพราะมีปัญหาที่ต้องใช้เวลาถึง 1ชั่วโมงเต็มตอนเช็คอินที่แอร์พอร์ต ตอนขาไปนั่งกันคนละสายการบินกับคุณสามีเพราะใช้ mileage แลกตั๋วและวางแผนว่าจากยุโรปจะนั่งรถไฟโดยใช้Eurail pass ไปตุรกีและค่อยบินกลับอเมริกา เพราะฉะนั้นเอกสารที่มีอยู่กับตัวจะมีแค่ itineraryจากกรุงเทพไปเวียนนาและจากตุรกีไปชิคาโก ส่วนตั๋วรถไฟ(Eurail pass) อยู่ที่บ้านเพื่อนที่เวียนนา ทางเจ้าหน้าที่ของสายการบิน FinAir ก็ขอดูเอกสารที่บินจากตุรกีกลับอเมริกา, ขอดู green card, ถามเราว่าสายการบินที่สามีนั่งคือสายการบินไหน, สามีไปconnect flightที่ไหน อาจเพราะเราบินคนเดียวและไม่ได้บินกลับกรุงเทพแต่บินกลับอเมริกา เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์บอกเราว่าเราไม่มีหลักฐานให้เห็นว่าเราจะออกจากยุโรป (คิดในใจว่าเรามีitineraryที่โชว์ว่าเราจะบินกลับอเมริกา และก็บอกแล้วว่าจะนั่งรถไฟไปตุรกี มันน่าจะพอแล้วนะ บ้านก็อยู่อเมริกา green card ก็มี เฮ้อแต่เราก็เข้าใจว่าทางสายการบินก็คงมีเหตุผลของเค้า)  ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเค้าต้องโทรถามเจ้าหน้าที่สถานฑูตที่ประจำอยู่ที่แอร์พอร์ต เพราะเค้ากลัวว่าเราจะมีปัญหาตอนไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศฟินแลนด์ หลังจากนั้นก็มาบอกเราว่าเดี๋ยวเจ้าหน้าที่สถานฑูตจะมาคุยด้วย แล้วพนักงานท่านนั้นก็หายไปจากเคาน์เตอร์check in และฝากเคสเราไว้กับเจ้าหน้าที่ท่านอื่น รอสักพักใหญ่ทางเจ้าหน้าที่สถานฑูตที่เป็นชาวต่างชาติก็มาคุยกับเรา ดูเอกสารของเราทั้งหมดและถามเราว่าจะไปที่ไหนบ้าง ทำไมไปคนละสายการบินกับสามี บ้านอยู่ที่ไหน ทำงานอะไรที่อเมริกา ขอดูgreen card และก็บอกว่าโอเค รวดเร็วดีแฮะ ทางเจ้าหน้าที่ของสายการบินอีกคนโดนที่ฝากเคสเราไว้กับเค้าก็ค่อนข้างยุ่งมากเพราะผู้โดยสารเริ่มมาเช็คอินเยอะแล้ว รอสักแป๊ปเค้าก็ขอโทษที่เราต้องเสียเวลานานมาก แล้วก็ถามว่าเราได้boarding passและเอกสารอื่นๆครบแล้วใช่มั๊ย เฮ้อ กว่าจะได้เข้าไปข้างในแต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี

 

Finair

Finair

 

ตอนถึงฟินแลนด์เพื่อจะไปเปลี่ยนเครื่องก็ผ่านไปด้วยดี เนื่องจากฟินแลนด์เป็นประเทศในกลุ่มSchengen เราเลยต้องผ่านตม.ของเค้าแต่ไม่ต้องรับกระเป๋าเดินทางแล้วเช็คอินกระเป๋าที่แอร์ไลน์ใหม่เหมือนของอเมริกา อ้อแล้วก็ไม่ต้องกรอกใบตม.ด้วยนะ แค่เดินผ่านตม.และตอบคำถามเค้า ถ้าผ่านเค้าก็จะ Stampในพาร์สปอร์ตเรา

Helsinki airport

Helsinki airport

 

ขั้นต่อไปคือต้องดูflightต่อไปของเราอยู่ที่Gateไหน ตอนเดินออกมาอย่างแรกที่จะเห็นคือจอทีวีที่มีรายละเอียดของแต่ละเที่ยวบิน เช็คเสร็จเราก็เดินตามป้ายไป แอร์พอร์ตที่นี่ไม่ค่อยใหญ่มาก ที่นั่งรอในแต่ละGateก็น้อย คนยืนกันเต็มไปหมด พอถึงเวลาBoardingก็ต้องเดินไปขึ้นรถบัส เครื่องบินจากฟินแลนด์ไปเวียนนาค่อนข้างเล็กมาก มี 2ฝั่ง ฝั่งละ 3แถว มีอาหารและก็เครื่องดื่มเสิร์ฟให้ตามปกติแต่เครื่องดื่มจะมีให้เลือกไม่มาก

View of Finland from the plane

View of Finland from the plane

 

พอถึงแอร์พอร์ตที่เวียนนาก็แค่เดินมาสักพักใหญ่เพื่อมารับกระเป๋า ไม่ต้องผ่านตม.อีกแล้วเพราะได้ผ่านไปแล้วที่ฟินแลนด์ ขอจบการเดินทางแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วค่อยมาต่อกันคราวหน้ากับการเดินทางในแต่ละประเทศนะคร้าาาา

4 thoughts on “My first Europe trip on Day 1

  1. Yooy

    อาหารสายการบินฟินแอร์ โอมั้ย? หน้าตาน่ากินอยู่นะ :p

  2. Yooy

    อาหารสายการบินนี้โอเคมะ หน้าตาน่ากินอยู่นะ

    1. Tip Post author

      It is ok na 🙂

  3. Pingback: One Night in Augsburg, Germany | Tip's Food and Travel

RSS
Follow by Email
Instagram