Turkey เป็นประเทศที่มีดินแดนทั้งที่เป็นเอเซียและยุโรป ได้มีโอกาสมาตุรกีครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน ครั้งนั้นไปนอนบ้านเพื่อนสามีทางฝั่งเอเซีย แต่ครั้งนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ทางฝั่งยุโรป จริงๆการเดินทางระหว่างสองฝั่งนั้นง่ายมาก เพียงแค่นั่งเรือ(ใหญ่)ข้ามไปมา
มาครั้งนี้ได้มีโอกาสไปชมเพิ่มอีก 3 เมือง (นอกเหนือจากเมือง Istanbul) ได้แก่เมืองAnkara, เมืองSafranbolu และเมืองAmasra ซึ่งจะขอเล่าเมืองAnkaraกับเมืองAmasraก่อนนะคะ ส่วนเมืองSafranboluขอไปลงรายละเอียดในบล๊อกต่อไปนะคะ
เมืองAnkara เป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ตอนแรกที่รู้ก็แปลกใจเพราะนึกว่าIstanbulเป็นเมืองหลวงซะอีก สามีบอกว่าสมัยที่ Ataturkเป็นผู้นำ ท่านได้มีความคิดที่จะเลือก Ankara ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงแค่หมู่บ้านเล็กๆเป็นเมืองหลวงก็เพราะท่านต้องการให้เมืองหลวงอยู่ตรงกลางประเทศ ท่านไม่ต้องการให้การค้าและความเจริญตกไปอยู่ฝั่งตะวันออกเพียงฝั่งเดียวซึ่งจะส่งผลให้เมืองเล็กๆที่อยู่ไกลจากฝั่งตะวันออกถูกทอดทิ้ง ทุกวันนี้ถ้าใครมีโอกาสไปเมืองนี้ อย่าลืมไปชม ที่ฝังศพของ Ataturk, Anatolian civilization museum และ Fortress ที่Ulus(เป็นบริเวณที่เก่าที่สุดของเมือง) นักท่องเที่ยวส่วนมากที่มาAnkara จะมาเป็นแบบ one day trip แต่ที่เราเลือกอยู่เมืองนี้ 2 คืนก็เพราะสามีเคยอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ประมาณ 1 ปีเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คราวนี้นอกจากแวะมาชมเมืองแล้วเลยถือโอกาสแวะมาทานข้าวกับเพื่อนสามี
ตกเย็นก็ออกไปทานข้าว ตอนที่เค้าบอกไปทานซีฟู้ด เราก็นึกว่าเป็นซีฟู้ดแบบบ้านเรา แต่ที่นี่ร้านอาหารทะเลจะเป็นแบบมีอาหารเรียกน้ำย่อยที่ทำไว้แล้วให้เราไปเลือก เช่น ปลาหมึกแช่ในน้ำมันมะกอก, มะเขือยาวเอามาทำให้ละเอียด, พริกกับกระเทียมเอามาสับละเอียดผสมน้ำมันมะกอก และเอาขนมปังมาจิ้มทาน อร่อยไปอีกแบบ
เพื่อนสามีบอกว่าฤดูการจับปลาที่ตุรกีเริ่มตั้งแต่กันยายนถึงเมษายน หลังจากนั้นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่ขายตามร้านอาหารจะไม่สด แนะนำให้ทานปลาตัวเล็กจะสดกว่า ถ้าร้านไหนมีปลาขนาดใหญ่ขายช่วงหมดฤดูการจับปลาก็หมายถึงเป็นปลาเลี้ยง ไม่ใช่ปลาจากทะเล เป็นความรู้ใหม่นะเนี่ย แต่เท่าที่เห็นไซน์อาหารทะเลบ้านเราใหญ่กว่าแต่อาจเป็นเพราะว่าบ้านเรามีการเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาเพื่อการขายโดยเฉพาะก็เป็นได้ พอลองทานดูอาหารทะเลที่นี่สดจริงๆ หรือเพราะคนท้องถิ่นพาไป เค้าคงรู้ว่าร้านไหนเป็นร้านที่ควรไปทาน
อย่างรูปข้างล่างที่เห็น ชื่อ Karides Güveç ขอเรียกว่ากุ้งจานร้อนแล้วกันนะคะ เป็นจานโปรดเลยคะเพราะเป็นคนชอบกุ้งมั่กๆๆๆ มีกุ้ง, เห็ด, Bell pepper ผสมกับเนยและพริก รสชาติค่อนข้างเผ็ดแต่ไม่มาก เวลาทานเพื่อนบอกต้องเอาขนมปังจิ้มลงไปในซอสที่มีอยู่ในจานร้อนด้วยถึงจะอร่อย 🙂
วันรุ่งขึ้นก็นั่งรถบัสต่อไปที่เมือง Safranbolu แต่ขอข้ามไปเล่าในบล๊อกถัดไปนะคะเพราะเรื่องเล่าค่อนข้างเยอะคะ! อยู่Safranboluแค่ 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็นั่งรถไปเมืองAmasra
Amasra เป็นเมืองชายทะเลเล็กที่ติดกับBlack Sea มีประชากรโดยประมาณเพียง 7,000 คน นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นคนตุรกี มิน่าเวลาเดินไปไหนมีแต่คนมอง >< จากSafranboluให้ไปที่สถานีรถ (ถามกับเจ้าของที่พัก แล้วเค้าจะเรียกtaxiให้) รถที่นั่งจะเป็นรถตู้หลังคาสูง สภาพดี จ่ายเงินไปคนละ 15TL. เพื่อนั่งจาก Safranbolu ไป Bartin ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง และจาก Bartin ให้นั่งDolmush (เป็นรถตู้โดยสาร สภาพไม่ใหม่เท่าไหร่) ไปAmasra เสียค่ารถไปอีกคนละ 4TL. นั่งไปอีกประมาณ 20นาทีก็ถึงที่หมายคะ
ระหว่างเดินไปที่พักก็จะมีตลาดนัดขายอาหาร มีพวกผัก, ชีส, olive และผลไม้ตามฤดูกาล ตอนที่ไปสตอเบอรี่เยอะมากแต่ลูกไม่ใหญ่มากนะคะ เชอรี่ก็มี
ด้วยความที่เป็นเมืองเล็ก เดินแค่ 1 ชั่วโมงก็รอบเมืองแล้ว คนที่มาที่นี่ส่วนมากจะมาชมวิวและทานอาหารทะเล
อันนี้เป็นรูปโรงแรมที่พักคะ อยู่ใจกลางเมืองพอดีแถมเดินแค่ 5 นาทีเพื่อไปขึ้นDolmush สะดวกดีคะ สภาพห้องก็ใช้ได้คะ มีระเบียงให้นั่ง อาหารเช้าเริ่ม 9โมงแนะ สายไปหน่อยแต่พอเราบอกไปว่าต้องไปขึ้นรถตอน 8.30 เพื่อไปอีกเมือง เค้าก็จัดอาหารเช้าให้นะคะ
โดยส่วนตัวอยู่ที่นี่คืนเดียวก็น่าจะพอเพราะเดินแค่ 1-2ชั่วโมงก็รอบเมืองแล้ว ><
Pingback: My nine international journeys in 2013 | Tip's Food and Travel
น่าไปจุง อยากกินกุ้งจานนั้นอ่ะ
That shrimp dish was amazing!