การไปเทศกาลเบียร์มันก็สนุกดีนะ ดูคนเค้ามาเป็นกลุ่มก็เยอะ เป็นคู่ก็มี เฮฮาแบบไม่ทำให้คนอื่นเดือนร้อน พอสามีบอกว่าจะพาไปเทศกาลเบียร์อีก แต่ที่ St.Paul รัฐ Minnesota ไปมั๊ย เราก็ตอบไปทันที เพราะคิดว่าจัดในตึกเหมือนงาน Isthmus Beer & Cheese (คลิกดูรูปได้ที่นี่จ้า) ที่ Madison รัฐ Wisconsin เมื่อต้นเดือนมกราคมที่เราไปกันมา พอได้ตั๋วมาปุ๊ป เพิ่งจะรู้ตัวว่าเป็นงานกลางแจ้ง! หันไปมองหน้าสามีทำไมไม่บอกกันเลย ดีนะที่อุณหภูมิหน้าหนาวปีนี้ไม่แย่เหมือนปีที่แล้ว แต่ก็หนาวนะถ้าต้องอยู่ กลางแจ้ง 3-4 ชั่วโมง อุณหภูมิประมาณ -1 องศาเอง ><
วันงานประตู เปิด 15.00 แต่ได้เข้าไปรอบ media คือตั้งแต่บ่ายโมง งานจัดขึ้นที่ Mighty Midway Minnesota State Fairgrounds ที่จอดรถเยอะและพื้นที่กลางแจ้งใหญ่มาก พอได้ map มา ดีใจมากเพราะส่วนหนึ่งของงานมีจัดใน indoor ด้วยแต่เป็น vendor อื่นๆที่ไม่ใช่เบียร์ ( อย่างน้อยก็มีที่ให้หลบหนาวนิดนึงก็ยังดี )
ชื่องานคือ The Beer Dabbler Winter Carnival งานนี้ถือเป็น the biggest outdoor beer festival in Minnesota มี brewery มาร่วมงาน 120+, มี food truck มาขายอาหารในงาน, มี Meat & Cheeseมาให้ชิมฟรีด้วย, มีวงดนตรีมาเล่นกลางความหนาว แถมมี Silent disco อีก กว่างานจะเลิกก็ประมาณทุ่มครึ่ง
จอดรถเสร็จก็เดินมาที่ลานกลางแจ้ง ตอนนั้นบ่ายโมงกว่านิดๆ คนจาก brewery ต่างๆก็เริ่มมาตั้งของตามเต้นท์ของตัวเอง
แต่งตัวกันครบเครื่อง หมวก jacketยาว ถุงมือ รองเท้าบูทยาวสำหรับหน้าหนาว
ลานโล่งๆก่อนงานเริ่ม
เริ่มเดินสายชิมเบียร์ตั้งแต่ยังไม่บ่ายสองจ้า ต้องรีบก่อนงานจะเริ่ม ไม่งั้นไม่ได้แวะชิม+คุยทุก brewery
Fair State Brewing Cooperative
Olvalde Farmhouse and Ales อันนี้เอาเบียร์ประเภทดื่มร้อนๆมาด้วย ต้องชิมซักหน่อย
สาวๆ Jacob Leinenkugel Brewery, Wisconsin เตรียมความพร้อม
เบียร์จาก Bang brewery สีเข้มจริงๆ รสชาติไม่ต้องพูดถึงเข้มตามสี 🙂
ก่อนงานเริ่ม brewer จากแต่ละ brewery ก็มารวมตัว ลองชิมเบียร์ของแต่ละคน แชร์ความรู้และความคิดเห็น
แต่งตัวได้ใจ brewer จาก Fair State Brewing Cooperative
Schram Vineyards เป็นทั้ง winery และ brewery
หลังบ่ายสาม ประตูเปิด คนเริ่มเยอะแล้ว
Stiegl Brewery จากSalzburg ยุโรป มาด้วยนะ Stiegl Radler (Grapefruit beer )
อันนี้เป็นโซนที่เรียกว่า Silent Disco แบบฟังคนเดียว มันส์คนเดียว งานเพิ่งเริ่มคนยังน้อยอยู่
แต่อันนี้เป็นตอนเย็นๆแล้ว คนเยอะเต็มเต้นท์เลยแถมเสียงดังเพราะทุกคนทั้งร้อง ทั้งเต้น สรุปมัน silent disco ตรงไหนเนี่ย
เดินจนถึงเกือบ 5 โมง ชักหิวแล้ว หนาวด้วย เดินมาตั้งแต่บ่ายโมงกว่าๆ เลยเดินไปดูว่า zone food truck เค้ามีอะไรมาขายบ้าง เดินไม่ถึงไหน จอดอยู่ที่ร้านนี้ เพราะเป็นคนชอบทาน bratwurst มาก
Gerhard’s Brats, bratwurst ของเจ้านี้เค้าทำเอง เจ้าของคือผู้ชายหมวกสีเทาที่ยืน grill bratwurst อยู่
สามีคุยกับเค้าระหว่างรอ เค้าบอกเค้ามาจากยุโรป ประเทศออสเตรีย ไส้กรอกเค้าเป็นสูตรพิเศษตกทอดมาในครอบครัว ไม่ใช้สารเคมี ที่สำคัญคือทำเองจ้า เครื่องปรุงมีแค่ เนื้อหมู เหลือ พริกไทย และกระเทียม วันนี้เค้าเอามาสองแบบ คือแบบ original กับ แบบ KASEWURST Cheese Brats with tangy Emmenthaler Swiss cheese เราเลยขอลองแบบ swiss cheese เครื่องเคียงที่ใส่นอกจาก brat แล้ว เราเดินไปตัก หัวหอม sauerkraut (กะหล่ำหั่นฝอยแล้วเอาไปดอง) และซอส mustard
ทานหมดไปแต่ยังไม่อิ่มเลยไปซื้อแบบ original มาอีกอัน อร่อยมาก เสียไปทั้งหมด $10
กินอิ่มแล้วก็ขอเดินไปในตึกเพื่อตาก heater หน่อยนึง โอ้ว เข้าไปคนทำไมเยอะ โผล่ไปดู เค้ามีชีสให้ชิมฟรี! มิน่าคนต่อแถวกันยาวเชียว เราเอามั่ง 555 ไหนๆมาถึง Minnesota แล้ว ขอลองหน่อยซิว่าชีสที่นี่จะอร่อยกว่าที่วิสคอนซินป่าว ปรากฎว่าอันที่เราชอบมากเป็นชีสจากวิสคอนซินซะงั้น
ขอบอกชีสเจ้านี้อร่อยที่สุด มาจากวิสคอนซินนั่นเอง ชื่อ Upland Cheese คนนึงหั่น อีกคนยืนหยิบชีสให้คนที่มาลอง เนื่องจากชีสที่เค้าเอามาให้ลองมันเป็นชีสที่เค้าทำเอง “Pleasant Ridge Reserve” แถมได้รับรองวัล America’s Most-Awarded cheese, won Best of Show in the American Cheese Society’s annual competition three times (2001, 2005 and 2010), and having also won the US Cheese Championships in 2003. It is the only cheese to have won Best of Show three times, and the only cheese to have ever won both of the major, national cheese competitions!! ด้วย ราคาแพงสุดๆ (1 pound extra aged= $30) แต่เค้าไม่ได้เอามาขายนะ ให้ชิมอย่างเดียว เค้าเลยให้ชิมคนละชิ้น ไม่งั้นคนที่มาหลังๆจะไม่ได้ชิม
ลองชีสซะอิ่มก็หาน้ำทาน สายตาปราดไปเจอโต๊ะที่ให้ลองน้ำผลไม้แบบผสมโซดา มีทั้งเชอรี่, grapefruit, มะนาว, ส้ม, บลูเบอรี่ ชิมหมดทุกอันเลย (ไม่ได้งกนะบอกก่อน เค้าให้ชิมถ้วยเล็กๆอะ ) แถมเค้าแจกฟรีคนละขวดสำหรับคนที่เป็น designated driver (คนที่มางานแต่ไม่ดื่มเบียร์เพราะต้องขับรถให้เพื่อน)
ที่ชอบอีกอย่างคือมีเครื่องเช็คระดับ alcohol ด้วย เจ๋งดีอะเพราะคนมาร่วมงานจะได้รู้ว่าตัวเองควรหรือไม่ควรขับรถกลับบ้าน
ร่างกายอุ่นได้ที่เพราะชิมชีสเยอะก็ถึงเวลาไปเดินข้างนอกต่อ แดดหมด พระจันทร์มา เค้าก็เริ่มก่อไฟกลางลานนั่นแหละ แถมมีวงดนตรีมาเล่นด้วย
มีการเอา hot air balloon มาตั้งด้วยแต่ไม่มีตัว balloon นะ มีแต่เปลวไฟ ใครอยู่ใกล้แถวนั้น ยิ่งกว่าอุ่นฮะ ร้อนแบบกลัวเปลวไฟมันจะมาโดน แถมเสียงเวลาเปลวไฟมันพุ่งขึ้นอีก ขออุ่นแบบยืนอยู่ห่างๆดีกว่า
เดินจนเกือบทุ่มนึง ก็ขอออกก่อนดีกว่าเพราะเดี๋ยวงานจบแล้วจะเอารถออกลำบาก สรุปสั้นๆเลยว่า หนาวแต่ไม่มาก สนุกสุดๆ ได้เห็นความมีระเบียบแบบเมาๆ ไม่มีทะเลาะแบบเมาๆให้เห็นเลย เข้าคิวต่อแถวเพื่อชิมเบียร์ ไม่มีใครทำเนียนมาแซงซักคน ดีมากๆ ขอส่งท้ายด้วยรูปนี้ Drink well with others 🙂